ข้อมูลทั่วไป


ชื่อทางการ: สาธารณรัฐสิงคโปร์ (Republic of Singapore) มีความมั่นคงด้านการเมืองภายในทำให้มีความต่อเนื่องของนโยบายในด้านต่าง ๆ และมีนโยบายการทูตเชิงรุก เป็นผู้นำของอาเซียนประเทศหนึ่ง เป็นศูนย์กลางธุรกิจด้านการค้าและบริการ โทรคมนาคม การเงิน และเทคโนโลยีสารสนเทศ (ธุรกิจที่ไม่ต้องอาศัยพื้นที่หรือทรัพยากรธรรมชาติ) โดยมีการพัฒนาระบบโครงสร้าง พื้นฐานและการโทรคมนาคมที่ทันสมัย เป็นพันธมิตรและหุ้นส่วนยุทธศาสตร์กับไทยในการเข้าถึงและขยายโอกาสการค้าและการลงทุน มีระบบการศึกษาและการแพทย์ที่ดีในเอเชีย มีการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่ดีและต่อเนื่อง
ที่ตั้ง : เป็นเกาะ (island city-state) ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ละติจูด 1°17'35" เหนือ ลองจิจูด 103°51'20" ตะวันออก (1°17′N 103°51′E) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของคาบสมุทรมาเลย์ (ห่างจากคาบสมุทรประมาณ 137 กิโลเมตร) ทิศเหนือติดกับรัฐยะโฮร์ของประเทศมาเลเซีย (Johor Bahru)ทิศตะวันออกติดกับทะเลจีนใต้ ทิศตะวันตกติดมาเลเซียและช่องแคบมะละกา ทิศใต้ติดช่องแคบมะละกา ใกลักับเกาะเรียล (Riau) ของอินโดนีเซีย
พื้นที่ : 699.4 ตารางกิโลเมตร (ประมาณเกาะภูเก็ต)
เมืองหลวง : สิงคโปร์
ประชากร : เป็นประเทศเล็กที่สุดในภูมิภาค แต่เป็นประเทศที่มีประชากรหนาแน่นเป็นอันดับ 2 ของโลก มีจำนวนประชากรประมาณ 5.31 ล้านคน ประกอบด้วย ชาวจีน (76.5%), ชาวมาเลย์ (13.8%), ชาวอินเดีย (8.1%) และอื่น ๆ (1.6%)
ภาษาราชการ :ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการที่ใช้อย่างแพร่หลาย รวมถึงภาษาจีนกลาง ภาษามาลายู และภาษาทมิฬ
ศาสนา : พุทธ (ร้อยละ 42.5), อิสลาม (ร้อยละ 14.9), คริสต์ (ร้อยละ 14.6), ฮินดู (ร้อยละ 4) และไม่นับถือศาสนา (ร้อยละ 25)
อากาศ :สิงคโปร์อยู่ในเขตมรสุมทำให้มีอากาศอบอุ่นเกือบตลอดปี มีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 25- 32 องศาเซลเซียส แบ่งเป็น 4 ฤดู คือ

ฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ (North-east Monsoon Season) ระหว่างเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ เป็นช่วงอากาศหนาว อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 23 - 26 องศาเซลเซียส
ฤดูก่อนมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ (Pre South-west Monsoon) ระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคม เป็นช่วงอากาศร้อน อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 31 - 34 องศาเซลเซียส
ฤดูมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ (South-west Monsoon Season) ระหว่างเดือนมิถุนายน-กันยายน มีฝนตกหนักและลมแรงจากอิทธิพลของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้
ฤดูก่อนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ (Pre North-east Monsoon) ระหว่างเดือนตุลาคม-ธันวาคม เป็นช่วงที่มีอากาศอบอุ่น และไม่มีฝนมากนัก


วันชาติ : วันที่ 9 สิงหาคม (แยกตัวจากสหพันธรัฐมาเลเซีย เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2508)และเป็นวันเริ่มต้นของเอกราชพม่าที่ได้รับคืนจากอังกฤษ หลังถูกอังกฤษครอบครองมาตั้งแต่ปี 236
วันสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับไทย : วันที่ 20 กันยายน 2508
วันที่เข้าเป็นสมาชิกอาเซียน : วันที่ 8 สิงหาคม 2510
สถานที่สำคัญทางวัฒนธรรม :อาคารโรงละคร Esplanade ย่าน China Town ย่าน Little India

การเมืองการปกครอง


ระบอบการปกครอง:สาธารณรัฐสิงคโปร์แยกตัวออกจากมาเลเซียเมื่อปี พ.ศ. 2508 มีการปกครองในระบอบสาธารณรัฐ ระบบรัฐสภา โดยมีประธานาธิบดีเป็นประมุขทางพิธีการ และมีนายกรัฐมนตรีเป็นประมุขทางด้านบริหาร สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีความมั่นคงทางการเมืองมากที่สุดประเทศหนึ่งของโลก เพราะนับแต่ตั้งเริ่มเป็นประเทศ มีรัฐบาลที่มาจากพรรคเดียวและเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก
ประมุขและหัวหน้าฝ่ายบริหาร : นายเอส อาร์ นาธาน (2542-ปัจจุบัน) ประธานาธิบดี
ผู้นำรัฐบาล : นายลี เซียน ลุง (2547-ปัจจุบัน) นายกรัฐมนตรี
รัฐมนตรีต่างประเทศ : นายวันนะ หม่อง ลวิน (U Wunna Maung Lwin)

เศรษฐกิจการค้า


ทรัพยากรธรรมชาติ : ยางพารา มะพร้าว ผัก ผลไม้
สินค้าส่งออกที่สำคัญ : เครื่องจักรกล เครื่องใช้ไฟฟ้า เคมีภัณฑ์ และเสื้อผ้า
สินค้านำเข้าที่สำคัญ : เครื่องจักรกล ชิ้นส่วนอุปกรณ์ไฟฟ้า น้ำมันดิบ เคมีภัณฑ์ และเสื้อผ้า
ตลาดส่งออกที่สำคัญ : มาเลเซีย ฮ่องกง อินโดนีเซีย และจีน
ตลาดนำเข้าที่สำคัญ : มาเลเซีย สหรัฐอเมริกา จีน และญี่ปุ่น
หน่วยเงินตรา : ดอลลาร์สิงคโปร์ (SGD)
ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ :259.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
รายได้ประชาชาติต่อหัว : 50,123 ดอลลาร์สหรัฐ
การขยายตัวทางเศรษฐกิจ : ร้อยละ 4.9

การเลือกตั้งประธานาธิบดีสิงค์โปร์


เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2548 นายเอส อาร์ นาธาน ครบวาระดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสิงคโปร์สมัยแรก (นายนาธานอายุ 81 ปี เป็นประธานาธิบดีคนที่ 6 ของสิงคโปร์ แต่เป็นประธานาธิบดีคนที่ 2 ที่มาจากการเลือกตั้ง) เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งสมัยที่สองเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2548 [เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2548 คณะกรรมการเลือกตั้งประธานาธิบดี (Presidential Elections Committee) ได้ประกาศว่า นายนาธานได้เป็นประธานาธิบดี โดยอัตโนมัตเนื่องจากผู้สมัครแข่งขันคนอื่นขาดคุณสมบัติ]


การเลือกตั้งทั่วไป


เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2549 สิงคโปร์ได้จัดการเลือกตั้งทั่วไป ก่อนสภาผู้แทนราษฎรจะครบวาระ ในเดือนพฤศจิกายนปี 2550 และเป็นการเลือกตั้งครั้งแรกนับตั้งแต่นายลี เซียน ลุง เข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และเป็นครั้งที่ 13 นับตั้งแต่สิงคโปร์แยกตัวออกจากสหพันธ์รัฐมาลายาเมื่อปี 2508 ซึ่งพรรคกิจประชาชน (People’s Action Party – PAP) ภายใต้การนำของนายลี เซียน ลุง ได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้น โดยมีสมาชิกของพรรค PAP ได้รับเลือกตั้งจำนวน 82 ที่นั่งจากทั้งหมด 84

ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร (ด้วยจำนวนคะแนนเสียงสนับสนุนจากผู้ลงคะแนนเสียงทั้งหมด ร้อยละ 66.6) สำหรับอีก 2 ที่นั่งเป็นของพรรค Worker’s Party (WP) และ Singapore Democratic Alliance (SDA)

ในการเลือกตั้งครั้งนี้ มีพรรคการเมืองรวม 4 พรรคส่งผู้สมัครลงแข่งขัน ได้แก่ พรรค People’s Action Party ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายรัฐบาล และพรรคฝ่ายค้านอีก 3 พรรค ประกอบด้วย (1) พรรค Worker’s Party (WP) ก่อตั้งเมื่อปี 2500 ภายใต้การนำของนาย Low Thia Kiang (2) พรรค Singapore Democratic Alliance (SDA) ก่อตั้งเมื่อปี 2544 และเป็นการรวมตัวของหลายพรรคการเมืองได้แก่ National Solidarity Party (NSP), Singapore Malay National Organization (PKMS), Singapore People’s Party (SPP) และ Singapore Justice Party ภายใต้การนำของนาย Chiam See Tong (3) พรรค Singapore Democratic Party (SDP) ก่อตั้งเมื่อปี 2523 โดยมีนาย Chee Soo Juan เป็นเลขาธิการ

การเลือกตั้งของสิงคโปร์ประกอบด้วยเขตเลือกตั้งผู้แทนเดียว (Single Member Constituency – SMC) จำนวน 9 เขต และเขตเลือกตั้งกลุ่มผู้แทน (Group Representation Constituency – GRC) จำนวน 14 เขต ซึ่งพรรค PAP ได้ส่งผู้ลงสมัครในทุกเขต ขณะที่พรรคฝ่ายค้านได้ส่งผู้สมัครในเขต SMC จำนวน 9 เขต และเขต GRC จำนวน 7 เขต รวม 47 ที่นั่ง ซึ่งเป็นจำนวนมากกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมด

นอกจากนี้ ยังมีเหตุการณ์ประกาศลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตลง (เหลือเป็นระดับอุปทูต) หลังจากเหตุการณ์เผาสถานทูตไทยเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2546 จากกรณีที่มีรายงานข่าวในกัมพูชาว่า นักแสดงชาวไทย (กบ-สุวนันท์ คงยิ่ง) กล่าวดูหมิ่นชาวกัมพูชา (รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร) และการเรียก เอกอัครราชทูตฯ (นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย) กลับประเทศ ระหว่างวันที่ 5 พ.ย. 2552 - 24 ส.ค. 2553 หลังจากที่กัมพูชาประกาศแต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณฯ เป็นที่ปรึกษารัฐบาลกัมพูชา (ต่อมากัมพูชาออกแถลงการณ์ยุติการปฏิบัติหน้าที่ของ พ.ต.ท.ทักษิณฯ เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2553) ซึ่งฝ่ายกัมพูชาได้เรียกเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยกลับกัมพูชาในช่วงเดียวกัน

นอกจากนี้ เป็นครั้งแรกที่สิงคโปร์ได้จัดให้มีการเลือกตั้งนอกประเทศในสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่จำนวน 8 แห่ง (กรุงวอชิงตัน นครซานฟรานซิสโก กรุงโตเกียว กรุงปักกิ่ง นครเซี่ยงไฮ้ เมืองฮ่องกง กรุงแคนเบอร์รา และกรุงลอนดอน)


การเปิดกว้างทางสังคม


นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ได้ย้ำในหลายโอกาสว่าประสงค์ที่จะพัฒนาสิงคโปร์ให้เป็นสังคมที่โปร่งใสและเปิดกว้างมากขึ้น (a more transparent and open society) โดยจะดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทั้งนี้ โดยคำนึงถึงค่านิยมที่เป็นคุณลักษณะเฉพาะของประเทศ (อาทิ การเป็นพหุสังคมที่มีความแตกต่างด้านเชื้อชาติและศาสนา) มากกว่าการนำระบบเสรีนิยมประชาธิปไตยของตะวันตกมาปรับใช้ อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองสิงคโปร์เห็นว่าประเด็นเรื่องศาสนาและความแตกต่างทางเชื้อชาติเป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อนในสังคมสิงคโปร์



เศรษฐกิจการค้า



นโยบายด้านเศรษฐกิจ



สิงคโปร์ต้องเผชิญกับประเด็นท้าทายสำคัญสามประการ ได้แก่ การแข่งขันจากประเทศในภูมิภาค การมีประชากรสูงอายุในจำนวนเพิ่มขึ้นขณะที่อัตราการเกิดของประชากรลดลง และการปรับโครงสร้างในภาคการผลิต ซึ่งเน้นการผลิตเพื่อการส่งออก

เมื่อเดือนตุลาคม 2548 นายลิม อึง เคียง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมสิงคโปร์ได้แถลงต่อรัฐสภาเกี่ยวกับแนวทางยุทธศาสตร์เพื่อเพิ่มผลผลิตในภาคอุตสาหกรรม (manufacturing) (ซึ่งมีสัดส่วนเป็นร้อยละ 27.7 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ) ใน 15 ปีข้างหน้า ได้แก่


เพิ่มงบประมาณด้านการวิจัยและการพัฒนาจากร้อยละ 2.1 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศเป็นร้อยละ 3 โดยเน้น 3 สาขา ได้แก่ วิทยาศาสตร์ชีวภาพ (biomedical sciences) เทคโนโลยีสิ่งแวดล้อมและน้ำ (environmental and water technologies) และสื่อดิจิตัล (interactive and digital media)
ส่งเสริมการจัดทำความตกลงทางเศรษฐกิจกับประเทศต่าง ๆ ทั้งในรูปแบบของความตกลงการค้าเสรีทวิภาคี ความตกลงเพื่อส่งเสริมการลงทุน ความตกลงว่าด้วยการยกเว้นภาษีซ้อนและความตกลงการรับรองมาตรฐานร่วม เพื่อขยายช่องทางทางการค้าและการลงทุนให้กับภาคเอกชนสิงคโปร์
ขยายการผลิตในสาขาอุตสาหกรรมสำคัญ ๆ อาทิ อิเล็กทรอนิกส์ เคมีภัณฑ์และวิทยาศาสตร์ ชีวภาพ และพัฒนาสาขาอุตสาหกรรมใหม่ ๆ อาทิ นาโนเทคโนโลยี สื่อดิจิตัล เทคโนโลยีสิ่งแวดล้อมและพลังงานทดแทน
ขยายการค้าและการลงทุนไปยังตลาดใหม่ ๆ อาทิ จีน อินเดีย ตะวันออกกลาง ซึ่งมีบริษัท Government Investment Corporation (GIC) และ Temasek Holdings ซึ่งรัฐบาลเป็นผู้ถือหุ้นมีบทบาทสำคัญในการขยายตลาดดังกล่าว



ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสาธารณรัฐสิงคโปร์



ภาพรวมความสัมพันธ์ทั่วไป


ไทยสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับสิงคโปร์เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2508 เอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์คนปัจจุบัน คือ นายมารุต จิตรปฏิมา และมีหน่วยงานในสถานเอกอัครราชทูต ได้แก่ สำนักงานผู้ช่วยทูตทหาร (สามเหล่าทัพ) สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ สำนักงานแรงงาน และสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เอกอัครราชทูตสิงคโปร์ประจำประเทศไทยคนปัจจุบันคือ นางฉั่ว ซิว ซาน (Mrs.Chua Siew San)

ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสิงคโปร์ยังคงมีความใกล้ชิดโดยบนพื้นฐานของผลประโยชน์ร่วมกันในรอบด้าน และในการพัฒนาการเป็นประชาคมอาเซียน ในปี 2553 ทั้งสองฝ่ายมีการแลกเปลี่ยนการเยือนในระดับต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ โดยไทยกับสิงคโปร์มีกลไกทวิภาคีสำคัญ ๆ 4 กรอบ ได้แก่


การประชุมอย่างไม่เป็นทางการระหว่างนายกรัฐมนตรี (Prime Ministerial Retreat)
โครงการแลกเปลี่ยนระหว่างข้าราชการพลเรือนไทยกับสิงคโปร์ (Civil Service Exchange Programme - CSEP)
การประชุม Singapore - Thailand Enhanced Economic Relations (STEER) มีกระทรวงพาณิชย์เป็นผู้ประสานงาน
ความร่วมมือด้านความมั่นคง


อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีเพียงความร่วมมือในกรอบ CSEP และความร่วมมือด้านความมั่นคงที่มี การดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม CSEP ครั้งที่ 10 ในวันที่ 19 - 20 มกราคม 2554


ความสัมพันธ์ด้านการเมือง


ไทยกับสิงคโปร์มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดและไม่มีปมขัดแย้งทางประวัติศาสตร์ระหว่างกัน ทั้งสองฝ่ายให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความร่วมมือทวิภาคีเพื่อสนับสนุนการเป็นประชาคมอาเซียน สิงคโปร์ติดตามสถานการณ์ทางการเมืองไทยอย่างใกล้ชิด โดยบุคคลในรัฐบาลไม่ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองไทยมากเหมือนช่วงสองปีแรกของการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองไทยในปี 2549

อย่างไรก็ดี สิงคโปร์ใช้ช่องทางสื่อมวลชนท้องถิ่นและต่างชาติที่มีสำนักงานในสิงคโปร์ และนักวิชาการต่างชาติที่อาศัยในสิงคโปร์ วิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองไทย ทั้งนี้ เสถียรภาพทางการเมืองไทยจะเป็นตัวชี้วัดสำคัญในการกระตุ้นให้สิงคโปร์รื้อฟื้นความร่วมมือกลไกทวิภาคีกับไทยทั้งในกรอบการประชุมอย่างไม่เป็นทางการระหว่างนายกรัฐมนตรีและ STEER

ด้านการทหาร ไทยกับสิงคโปร์มีการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างผู้บังคับบัญชาระดับสูงอย่างสม่ำเสมอ มีการจัดตั้งคณะกรรมาธิการบริหารร่วมด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศระหว่างกองทัพ คณะทำงานร่วมกองทัพเรือไทย-สิงคโปร์ รวมทั้งการแลกเปลี่ยนความร่วมมือด้านการฝึกบุคลากร และการซ้อมรบร่วมกันในหลายโอกาส ล่าสุด ได้แก่ การฝึกร่วมผสม Exercise Cope Tiger ระหว่างไทย สิงคโปร์ สหรัฐฯ ระหว่างวันที่ 26 มกราคม - 5 กุมภาพันธ์ 2551 และการฝึก Cobra Gold ระหว่างวันที่ 4 - 17 กุมภาพันธ์ 2552 (ร่วมกับสหรัฐฯ ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย) และระหว่างวันที่ 1 - 11 กุมภาพันธ์ 2553 (ร่วมกับไทย ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย สหรัฐอเมริกา และสาธารณรัฐเกาหลี)

ความตกลงทวิภาคีด้านการทหารที่สำคัญ ได้แก่ ความตกลงเรื่องการฝึกของกองทัพสิงคโปร์ในไทย ฉบับที่ 8 พ.ศ. 2550 - 2553 (ลงนามเมื่อ 16 กรกฎาคม 2555) และบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสนับสนุนด้านการฝึกและการส่งกำลังบำรุงระหว่างกองทัพอากาศสิงคโปร์กับไทย ซึ่งไทยอนุญาตให้สิงคโปร์ใช้พื้นที่ในจังหวัดกาญจนบุรีเพื่อฝึกรบภาคพื้นดิน และที่สนามบินกองบินที่ 23 จังหวัดอุดรธานี ในการฝึกรบทางอากาศ (ลงนามเมื่อ 12 พฤศจิกายน 2547)


ด้านเศรษฐกิจ


ด้านการค้า ในปี 2554 สิงคโปร์เป็นคู่ค้าสำคัญอันดับ 5 ของไทย (รองจากญี่ปุ่น จีน สหรัฐฯและมาเลเซีย) ไทยเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับ 9 ของสิงคโปร์ โดยการค้ารวมมีมูลค่า 19,237.38 ล้านเหรียญสหรัฐ (582,393.86 ล้านบาท) ไทยส่งออก 11,450.09 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (344,781.68 ล้านบาท) ไทยนำเข้า 7,787.29 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (237,612.21 ล้านบาท) โดยไทยได้ดุลการค้า 3,662.80 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (107,169.47 ล้านบาท) (มูลค่าการค้ารวมเพิ่มขึ้นจากปี 2553 มูลค่า 3,934.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (95,309.58 ล้านบาท) และไทยได้ดุลการค้าเพิ่มขึ้น 946.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (23,879.49 ล้านบาท)

สินค้าส่งออกจากไทยที่สำคัญ ได้แก่ น้ำมันสำเร็จรูป แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ส่วนประกอบอากาศยานและอุปกรณ์การบิน เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล เคมีภัณฑ์ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่น ๆ และน้ำมันดิบ

สินค้าที่ไทยนำเข้าจากสิงคโปร์ ได้แก่ เคมีภัณฑ์ เรือและสิ่งก่อสร้างลอยน้ำ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า น้ำมันสำเร็จรูป เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ กระดาษ และผลิตภัณฑ์กระดาษ พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช เครื่องมือเครื่องใช้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์การแพทย์


ด้านการลงทุน


ในปี 2554 สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนได้อนุมัติ 58 โครงการ คิดเป็นมูลค่าการลงทุนรวม 25,175.9 ล้านบาท ส่วนใหญ่อยู่ในสาขาอิเล็กทรอนิกส์และผลิตภัณฑ์ไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์โลหะและเครื่องจักร การบริการ เคมีภัณฑ์และกระดาษ การเกษตร


ด้านการท่องเที่ยว


ในปี 2554 มีนักท่องเที่ยวสิงคโปร์มาไทยจำนวน 670,148 คน ซึ่งมีอัตราเพิ่มขึ้นจากจำนวนชาวสิงคโปร์ที่เดินทางมาไทยในปี 2553 (จำนวน 576,259 คน) ร้อยละ 11.04


ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม


สิงคโปร์ได้เป็นประเทศแรก ๆ ที่ให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศไทยต่อกรณีพิบัติภัยที่ภาคใต้ของประเทศไทยเมื่อเดือนธันวาคม 2547 โดยได้ส่งเครื่องบิน C -130 พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ค้นหาและกู้ภัยจำนวน 23 คนจาก Singapore Civil Service Defence Force และยาเวชภัณฑ์ ผ้าห่ม อาหารแห้ง รวม 13 ตัน รวมทั้ง ส่งเฮลิคอปเตอร์ 4 ลำ (Super Pumas 2 ลำ Chinooks 2 ลำ) เพื่อช่วยค้นหาและกู้ภัย รวมทั้งได้ส่งผู้เชี่ยวชาญด้านชันสูตรศพจำนวน 4 คน ไปยังจังหวัดภูเก็ต เพื่อพิสูจน์ศพผู้เสียชีวิต

นอกจากนี้ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2549 สิงคโปร์ได้ให้ความช่วยเหลือในรูปสิ่งของแก่ผู้ประสบอุทกภัยในภาคเหนือ รวมมูลค่า 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ และได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ Chinook ของกองทัพอากาศสิงคโปร์ซึ่งฝึกบินในประเทศไทยให้ความช่วยเหลือในภารกิจกู้ภัยที่จังหวัดพิษณุโลก



ความตกลงที่สำคัญ ๆ กับไทย



ความตกลงสำคัญ ที่ได้ลงนามไปแล้ว



ความตกลงเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนระหว่างไทยกับสิงคโปร์ ลงนามเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2518
บันทึกความตกลงเรื่องการฝึกของกองทัพสิงคโปร์ในราชอาณาจักรไทย ลงนามเมื่อปี 2525
บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการส่งกำลังบำรุงระหว่างกองทัพไทยกับกองทัพสิงคโปร์ ลงนามเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2534
บันทึกความเข้าใจด้านยานยนต์ ลงนามเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2546

บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือเพื่อส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ลงนามเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2546
บันทึกความเข้าใจด้านธุรกิจและการลงทุน ลงนามเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2546
บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว ลงนามเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2546
บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการส่งออกหมูต้มสุกจากไทยไปสิงคโปร์ ลงนามเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2546

บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านสปา ลงนามเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2546
บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านตลาดหลักทรัพย์ ลงนามเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2546
บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการฝึกบินเติมเชื้อเพลิงในอากาศระหว่างกองทัพอากาศกับกองทัพอากาศสิงคโปร์ ลงนามเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2546
บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสนับสนุนด้านการฝึกและการส่งกำลังบำรุงซึ่งกันและกันระหว่างกองทัพอากาศสิงคโปร์และกองทัพอากาศไทย ลงนามเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2547

บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการเข้าร่วมการฝึกคอบบร้าโกลด์ระหว่างกองทัพไทยกับกองทัพสิงคโปร์ ลงนามเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2548
บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสนับสนุนด้านการฝึกและการส่งกำลังบำรุงซึ่งกันและกันระหว่างกองทัพอากาศสิงคโปร์และกองทัพอากาศไทย ลงนามเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2548
บันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลไทยกับสิงคโปร์ว่าด้วยการจัดทำความตกลงเพื่อส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุน ลงนามเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2548
บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการศึกษาระหว่างกระทรวงศึกษาธิการไทยกับสิงคโปรลงนามเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2549

บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการฝึกของกองทัพสิงคโปร์ในราชอาณาจักรไทย ฉบับที่ 8 (พ.ศ. 2550-2553) ลงนามเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2550
บันทึกความเข้าใจระหว่างกองทัพเรือกับกองทัพเรือสิงคโปร์สำหรับการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับเรือพาณิชย์ที่ประกอบอาชีพโดยสุจริต (อยู่ระหว่างการจัดทำ)



การเยือนที่สำคัญ



การเยือนที่สำคัญของฝ่ายไทย



พระราชวงศ์
พระบรมวงศานุวงศ์

วันที่ 20 มีนาคม 2493 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ เยือนสิงคโปร์อย่างเป็นทางการ
วันที่ 28 พฤศจิกายน 2494 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ เยือนสิงคโปร์อย่างเป็นทางการ
วันที่ 17 สิงหาคม 2505 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ เยือนสิงคโปร์อย่างเป็นทางการ
วันที่ 2-4 กรกฎาคม 2542 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ เยือนสิงคโปร์อย่างเป็นทางการ

วันที่ 12-17 เมษายน 2543 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จเยือนสิงคโปร์อย่างเป็นทางการ
วันที่ 22 - 25 มิถุนายน 2543 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จเยือนสิงคโปร์อย่างเป็นทางการ
วันที่ 12 - 14 พฤษภาคม 2547 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ เยือนสิงคโปร์อย่างเป็นทางการ
วันที่ 10 - 12 กันยายน 2547 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ เยือนสิงคโปร์เป็นการส่วนพระองค์

วันที่ 5 - 11 กันยายน 2548 พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เสด็จเยือนสิงคโปร์เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันแบดมินตัน Cheers Asian Satellite Badminton Championships 2005
วันที่ 4 พฤศจิกายน 2548 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ เยือนสิงคโปร์เพื่อทรงทำการฝึกบิน
วันที่ 23 พฤษภาคม 2549 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ เยือนสิงคโปร์เพื่อทรงทำการฝึกบิน
วันที่ 28 สิงหาคม - 2 กันยายน 2549 พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เสด็จเยือนสิงคโปร์เพื่อร่วมการแข่งขันแบดมินตัน Cheers Asian Satellite Badminton Championships 2006

วันที่ 23 - 25 เมษายน 2550 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ เยือนสิงคโปร์เพื่อทรงกล่าวปาฐกถาในการประชุม I-CREATe 2007
วันที่ 28 พฤษภาคม-1 มิถุนายน 2550 พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เสด็จเยือนสิงคโปร์เพื่อร่วมการแข่งขันแบดมินตัน Cheers Asian Satellite Badminton Championships 2007
วันที่ 22 - 24 กรกฎาคม 2550 พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาเสด็จเยือน สิงคโปร์เพื่อดูงานด้านกฎหมาย
วันที่ 21 - 24 พฤษภาคม 2551 พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เสด็จเยือนสิงคโปร์เพื่อร่วมการแข่งขันแบดมินตัน Cheers Asian Satellite Badminton Championships 2008

วันที่ 19 มิถุนายน - 3 กรกฎาคม 2551 ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จเยือนสิงคโปร์เพื่อร่วมพิธีเปิดงานภาพยนตร์ "หนึ่งใจเดียวกัน"
วันที่ 3 - 6 กันยายน 2551 ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จเยือนสิงคโปร์เพื่อร่วมงานฉายภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์ "หนึ่งใจเดียวกัน"
วันที่ 24 - 26 กุมภาพันธ์ 2552 พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชา ทินัดดามาตุ เสด็จเยือนสิงคโปร์เป็นการส่วนพระองค์
วันที่ 22 - 26 เมษายน 2552 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารีเสด็จฯ เยือนสิงคโปร์ตามคำกราบบังคมทูลเชิญของประธานาธิบดีและเพื่อทรงเข้าร่วมการประชุม International Convention for Rehabilitation Engineering & Assistive Technology (i-CREATe) 2009
วันที่ 12 - 13 เมษายน 2554 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารีเสด็จฯ เยือนสิงคโปร์เป็นการส่วนพระองค์
วันที่ 29 เมษายน - 2 พฤษภาคม 2554 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พร้อมด้วยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ เสด็จฯ เยือนสิงคโปร์เป็นการส่วนพระองค์

วันที่ 17 - 18 กรกฎาคม 2554 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ เยือนสิงคโปร์เป็นการส่วนพระองค์
วันที่ 29 - 31 กรกฎาคม 2554 พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เสด็จเยือนสิงคโปร์เป็นการส่วนพระองค์


รัฐบาล
นายกรัฐมนตรี / รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

วันที่ 21 - 23 สิงหาคม 2544 พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เยือนสิงคโปร์อย่างเป็นทางการ
วันที่ 9 พฤศจิกายน 2549 พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีเยือนสิงคโปร์อย่างเป็นทางการ
วันที่ 18 - 20 มีนาคม 2551 นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีเยือนสิงคโปร์อย่างเป็นทางการ
วันที่ 22 มิถุนายน 2552 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีเยือนสิงคโปร์อย่างเป็นทางการ

วันที่ 22 - 23 สิงหาคม 2544 นายสุรเกียรติ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเยือนสิงคโปร์พร้อมนายกรัฐมนตรี
วันที่ 17 - 18 พฤษภาคม 2548 นายกันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเยือนสิงคโปร์อย่างเป็นทางการ
วันที่ 20 - 21 กุมภาพันธ์ 2551 นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเยือนสิงคโปร์อย่างเป็นทางการ
วันที่ 13 - 14 ตุลาคม 2552 นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเยือนสิงคโปร์อย่างเป็นทางการและเพื่อเป็นประธานร่วมการประชุมโครงการ CSEP ครั้งที่ 9

วันที่ 8 ธันวาคม 2554 นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเยือนสิงคโปร์อย่างเป็นทางการ


การเยือนที่สำคัญของฝ่ายสิงคโปร์


พระราชอาคันตุกะ

วันที่ 17 - 21 มกราคม 2548 ประธานาธิบดีสิงคโปร์เยือนไทยอย่างเป็นทางการในฐานะพระราชอาคันตุกะของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ


รัฐบาล

วันที่ 26 - 28 กุมภาพันธ์ 2552 นายลี เซียน ลุงนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 14 ที่อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี
วันที่ 10 –- 12 เมษายน 2552 นายลี เซียน ลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน + 3 และการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออกที่เมืองพัทยา
วันที่ 19 –- 20 มกราคม 2554 นายจอร์จ เยียว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสิงคโปร์เยือนไทยอย่างเป็นทางการเพื่อเป็นประธานร่วมการประชุมโครงการ CSEP ครั้งที่ 10
วันที่ 28 - 29 พฤศจิกายน 2554 นายเค ชันมูกัม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสิงคโปร์เยือนไทยอย่างเป็นทางการเพื่อแนะนำตัวในโอกาสรับตำแหน่ง


การประชุมที่สำคัญ


การประชุม Prime Ministerial Retreat ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 2 - 3 กันยายน 2554
การประชุม Singapore Thailand Enhanced Economic Relationship STEER ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 22 - 23 พฤศจิกายน 2548 ที่ประเทศไทย สิงคโปร์จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมครั้งที่ 3
การประชุมโครงการความร่วมมือระหว่างหน่วยราชการพลเรือนไทย-สิงคโปร์ (Civil Service Exchange Programme – CSEP) ครั้งที่ 10 ระหว่างวันที่ 19 -– 20 มกราคม 2554 ที่ประเทศไทย


ข้อควรรู้


หน่วยราชการเปิดทำการวันจันทร์ – ศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 - 13.00 น. และ 14.00 - 16.30 น. และวันเสาร์เปิดทำการ ระหว่างเวลา 08.00 – 13.00 น.
ผู้ถือหนังสือเดินทางไทยสามารถเดินทางเข้าสิงคโปร์ได้โดยไม่ต้องขอรับการตรวจลงตราและ สามารถพำนักอยู่ได้ 14 วัน
การพำนักเกินระยะเวลาที่กำหนดถือว่าผิดกฎหมายมีโทษจำคุกสูงสุด 6 เดือน เฆี่ยน 3 ที ปรับสูงสุด 6,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ และห้ามเข้าประเทศ
การหลบหนีเข้าสิงคโปร์และประกอบอาชีพเร่ขายบริการผิดกฎหมาย จะถูกลงโทษอย่างรุนแรง
การลักลอบนำยาเสพติด อาวุธปืนและสิ่งผิดกฎหมายอื่น ๆ จะได้รับโทษอย่างรุนแรงขั้นประหารชีวิต


ที่มา: กรมอาเซียน กระทรวงการต่างประเทศ.